กระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าในการนำ “ตั๋วร่วม”มาใช้ว่า
ความล่าช้าของการพัฒนาตั๋วร่วมนั้นหนึ่งในสาเหตุคือการที่
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ไม่สามารถส่งมอบระบบซอฟต์แวร์
และเทคโนโลยีบัตรเครดิต (Security Access Module : SAM) ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพัฒนาได้เช่น
รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์รถเมล์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เป็นต้น
จึงส่งผลให้ช่วง 14 เดือน ในการพัฒนาระบบถือว่าสูญเปล่า
ขณะนี้จึงต้องขอคำตอบจากทางรฟม. ว่าจะพัฒนาเองต่อไป
หรือจะเปิดทางให้ธนาคารกรุงไทยเข้ามาพัฒนาระบบ นอกจากนี้พบว่าฝั่งเอกชนเจ้าของระบบยังมีเงื่อนไขบางข้อ
โดย บริษัท วิกซ์ เทคโนโลยี(แบงค็อก) จำกัด หรือ VIX ซึ่งเป็นผู้ผลิต
SAM ต้องการให้ผู้บริการทุกรายในระบบตั๋วร่วม
ต้องลงนามในสัญญารักษาความลับกับทางบริษัทก่อน ขณะที่
บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM ซึ่งเป็นผู้ควบคุมตัวข้อมูลระบบต้องการเอกสารต่างๆ
จากผู้ให้บริการที่จะเข้าสู่ระบบตั๋วร่วม เพื่อความปลอดภัยควบคุมในการใช้ KEY
ส่งผลให้ผู้บริการแต่ละรายต้องใช้เวลาจัดทำเอกสารดังกล่าว
ดังนั้นจึงคาดว่าตั๋วร่วมแบบ EMV 4.0
ต้องเลื่อนออกไปให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2563
หรืออย่างน้อย 12-18 เดือน นับจากนี้
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย