รีวิวโครงการใหม่

IDEO MOBI

Sukhumvit 40

ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40

(3/3/2562)


คอนเซ็ปต์: การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี และความเป็นธรรมชาติ (The Synthesis of Future and Nature)

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 40 (ระหว่างซอยสุขใจและซอยสมานฉันท์) ย่านเอกมัยใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส เอกมัย ประมาณ 600 เมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อถนนสุขุมวิท และถนนพระราม 4 ได้อย่างสะดวก


รายละเอียดโครงการ

เจ้าของโครงการ บมจ. ดีเวลลอปเม้นท์
เนื้อที่โครงการ 3-0-84 ไร่
รูปแบบอาคาร 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร
จำนวนหน่วย รวม 272 หน่วย
สิ่งอำนวยความสะดวก สระว่ายน้ำ ชั้น 2 และชั้นดาดฟ้า
ฟิตเนส
ห้องอบไอน้ำ
ห้องซาวน่า
สวนหย่อม
ที่จอดรถ 146 คัน (ประมาณ 54% ไม่รวมซ้อนคัน)
พิกัด 13.71680, 100.58153
เบอร์โทรศัพท์ 02-316-2222
เว็บไซต์ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40

ทำเลที่ตั้ง

หากใครอยู่ในทำเลนี้ ก็จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ซอยสุขุมวิท 40 ซึ่งเป็นทางเข้าของโครงการนี้ (ไม่ใช่ทางออก) จะเป็นถนนเดินรถทางเดียว (One way) ที่พามุ่งออกไปสู่ถนนพระราม 4

โดยเมื่อเข้ามาในซอยเลี้ยวซ้ายเข้าซอยย่อย คือ ซอยสุขใจ ก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ ในซอยสุขใจสามารถเดินรถสวนกันได้ภายในซอยได้ ในส่วนของการเดินทางออกโครงการโดยรถยนต์ เมื่อเลี้ยวขวาออกจากโครงการภายในซอยสุขใจ และเลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะออกถนนสุขุมวิทได้ผ่านทางซอยสุขุมวิท 42

บรรยากาศในซอยสุขใจ

บรรยากาศในซอยสมานฉันท์

ซึ่งหากต้องการเดินเท้ามาโครงการจากทาง BTS เอกมัย ทางทีมงาน Tooktee ก็แนะนำขอให้เข้าทางซอยสุขุมวิท 42 เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีระยะทางประมาณ 600 จากสถานีรถไฟฟ้า (ถ้าเข้าทางปากซอยสุขุมวิท 40 เข้าโครงการจะใช้ระยะทางประมาณ 700 เมตร) อีกทั้งปากซอยยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ Gate Way เอกมัย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งก่อนทั้งไปและกลับด้วย
.
ส่วนซอยสมานฉันท์ ที่เป็นซอยย่อยที่ขนานกับซอยสุขใจ จะเป็นทางออกสำรองของทางโครงการ

รูปถ่ายจากโมเดลของโครงการ


จุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญ



ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทำเลรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท สถานีเอกมัย ประมาณ 600 เมตร การเดินทางโดยเท้าใช้ระยะเวลาประมาณ 7-8 นาที ผ่านทางซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งการเชื่อมต่อสู่สถานีอโศก ที่เป็นสถานีเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) เพียง 4 สถานีเท่านั้น

สำหรับผู้ที่ขับรถเองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง จะพบว่าสามารถเชื่อมต่อทางพิเศษเฉลิมมหานคร ผ่านถนนอาจณรงค์ได้

สรุประยะห่างจากจุดเชื่อมต่อสำคัญ


สถานที่สำคัญโดยรอบ

ที่ตั้งโครงการอยู่ในเมือง ซึ่งหากวิเคราะห์ทำเลแล้วจะพบว่า ทำเลสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ค่อนข้างเงียบสงบมากกว่าฝั่งเลขคี่ ซึ่งได้แก่ สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) สุขุมวิท 63 (เอกมัย) ซึ่งเป็นย่านบันเทิงกินดื่มอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งข้อดีคือ ทำให้ ย่านนี้ไม่พลุกพล่านเหมาะแก่การพักอาศัย แต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝั่งก็นับได้ว่าอยู่ในทำเลเดียวกัน การที่จะข้ามไปฝั่งสุขุมวิทเลขคี่ก็นับว่าไม่ลำบากเลย
.
สถานที่สำคัญต่างๆ รอบโครงการ หากพิจารณาภายในรัศมี 1.5 กิโลเมตร จะพบกับแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญในพื้นที่ คือเกตเวย์ เอกมัย ซึ่งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 42 (ระยะเดิน 600 เมตร) และ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท ที่อยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ) ซึ่งหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั่งเพียง 2 สถานี ก็จะถึงห้างสรรพสินค้าสุดหรูอย่าง เอ็มโพเรียม และ เอ็มควอเทียร์
.
นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลในพื้นที่ คือ โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ รวมไปถึงอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ซึ่งเป็นสถานอุดมศึกษาในพื้นที่ ซึ่งนับได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่มีความครบครันรองรับการพักอาศัยจริงได้

ระยะห่างจากสถานที่สำคัญ (ระยะเดิน)



จุดเด่นของผังโครงการ

ออกแบบเล่นระดับได้อย่างดีระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 รวมไปถึงมุมมองจากในอาคารมาสู่ชั้นล่าง ได้ความรู้สึกเขียวสดชื่น ตามแบบคอนเซ็ปต์ของโครงการ


สิ่งอำนวยความสะดวก

สิ่งอำนวยความสะดวกหลักของทางโครงการ จะอยู่บริเวณชั้น 2 ได้แก่ สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ และห้องซาวน่า ในส่วนชั้น 1 จะมีสวนความยาวประมาณ 80 เมตร นอกจากสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 แล้วนั้น จุดเด่นของโครงการนี้คือ มีสระว่ายน้ำ 2 แห่ง อีกแห่งอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้า ตำแหน่งอยู่ที่อาคาร B ในส่วนของอาคาร A จะเป็นสวนดาดฟ้าแทน (Garden roof) ซึ่งระหว่าง 2 อาคาร เฉพาะชั้นดาดฟ้าจะมีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารได้
.
ด้านที่จอดรถจะอยู่ที่เฉพาะชั้น 1 (ห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 ทั้ง 2 อาคาร) จำนวนที่จอดรถ จอดรถได้ประมาณ 54% ไม่รวมซ้อนคัน ลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว รวม 2 อาคาร จำนวนลิฟต์ทั้งหมด 4 ตัว


รูปแบบห้อง


แบบห้องของทางโครงการจะ มีลักษณะ Type ใหญ่ การออกแบบห้องหน้ากว้างเป็นพิเศษ โดยเริ่มต้นที่ขนาด 34.9 ตร.ม. ที่เป็นแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งหากแบ่งตามฟังก์ชั่นการใช้งาน รูปแบบห้องของทางโครงการสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท หลักๆ ได้แก่

  • 1 ห้องนอน ขนาดห้องประมาณ 34.9-47.5 ตารางเมตร แบบ A1-A5 360°
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาดห้องประมาณ 52.0 ตารางเมตร แบบ B1-B3
  • 2 ห้องนอน ขนาดห้องประมาณ 50.0-81.0 ตารางเมตร แบบ C1-C4
  • 3 ห้องนอน ขนาดห้องประมาณ 97.0 ตารางเมตร แบบ D1 (3 ห้องนอนมีห้องแบบเดียว)

1 ห้องนอน 34.9 ตร.ม. (Type A1)


รูปแบบ 1 ห้องนอน (แบบ A1) ซึ่งเป็นขนาดที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของทางโครงการ พื้นที่ใช้สอยจะมีการกั้นห้องนอนให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบห้อง 1 ห้องนอนขนาด 34.9 ตร.ม. ของโครงการนี้ จะไม่มีระเบียง พื้นที่ส่วนที่เป็นระเบียงจะแทนที่ด้วยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในตัวห้องแทน (แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 41 ตร.ม.ขึ้นไปจะเริ่มมีระเบียงให้) โดย ความที่รูปแบบห้องที่หน้ากว้าง จะแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 3 ส่วน ได้แก่ ห้องนอน, ห้องแต่งตัว และห้องนั่งเล่น
.
พิจารณาฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยห้องรูปแบบนี้ เมื่อเปิดประตูเข้าห้องเข้ามาจะพบกับพื้นที่ครัวแบบเปิด (Pantry) และพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีหน้าต่างบานยาวประมาณ 2 เมตร เพื่อรับแสงและสะดวกต่อการเทควิวภายนอกห้อง
.
ถัดมาจะเป็นในส่วนของห้องนอนที่มีประตูกั้นแยกจากห้องนั่งเล่น โดยก่อนถึงพื้นที่เตียงนอน จะมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้าก่อน โดยพื้นที่นี้มีความกว้างประมาณ 1.6 เมตร ซึ่งพื้นที่นี้อาจปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานเล็กๆ ได้ ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว แต่อาจจะไม่สะดวกเวลามีแขกมาเยี่ยมได้

กดเพื่อชมห้องแบบ360°

1 ห้องนอน พลัส 52.0 ตร.ม. (Type B1)


แบบขนาดใหญ่กว่า 1 ห้องนอน เพิ่มพื้นที่ฟังก์ชั่นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอน หรือห้องทำงานได้ ซึ่งแบบห้องนี้จะไม่มีระเบียงเช่นเดียวกันแบบ 1 ห้องนอน (Type A1) นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นห้องน้ำเพิ่มมาอีก 1 ห้อง รวมห้องรูปแบบนี้จะได้ห้องน้ำจำนวน 2 ห้อง
.
พิจารณาฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องจะพบครัวเปิด (Pantry) ก่อนลำดับแรก ถัดมาจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารและห้องนั่งเล่น เข้ามาสู่บริเวณส่วนกลางห้อง จะเป็นห้องอเนกประสงค์และห้องน้ำ ซึ่งหมายความว่าห้องอเนกประสงค์จะไม่มีห้องน้ำอยู่ในตัวห้อง ในลำดับส่วนในสุดจะเป็นห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำอยู่ภายในตัว สร้างความเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาเยี่ยมที่ห้องได้
.
โดยหากพิจารณาภาพรวมห้องแบบ B1 B2 และ B3 ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัสทั้งหมดนี้ ฟังก์ชั่นการใช้งานค่อนข้างใกล้เคียงกัน คือ เป็น พื้นที่ครัว/ห้องนั่งเล่น -> ห้องอเนกประสงค์ -> และห้องนอน


2 ห้องนอน 52.5 ตร.ม. (Type C1)


แบบห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งห้องรูปแบบ 2 ห้องนอนจะอยู่ตำแหน่งห้องมุมทั้งหมด ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีห้องน้ำอยู่ภายในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำ (Bath tub)
.
ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็จะเป็นพื้นที่ครัวเปิด (Pantry) คล้ายๆ กับรูปแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร
.
โดยจะเห็นได้ว่าพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นจะกว้างกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน ถึงเกือบ 2 เท่า ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนที่ 2 (ห้องนอนที่พื้นที่น้อยกว่า Master Bedroom) ตรงข้ามห้องนอน 2 จะเป็นห้องน้ำ และห้องลำดับถัดมาจะเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะอยู่ด้านในสุดของตัวห้อง พร้อมห้องน้ำภายในตัว
.
ซึ่งห้องรูปแบบนี้ เหมาะแก่กลุ่มผู้พักอาศัย 2-3 คน หรือกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก รวมไปถึงกลุ่มที่ต้องการห้องเพิ่มเพื่อทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือก็ได้


3 ห้องนอน 97.0 ตร.ม. (Type D1)


รูปแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ จุดเด่นของห้องรูปแบบนี้จะเป็นห้องมุมเปิดทั้ง 3 ด้าน เนื่องจากอยู่บริเวณปลายอาคาร ทำให้ทุกห้องนอนสามารถเทควิวได้โดยมีเพียงชั้นละ 1 ห้อง (รวม 2 อาคาร ประมาณ 14 ห้อง)

ฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ซึ่งหมายความว่าทุกห้องจะมีห้องน้ำภายในตัว โดยห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะมีอ่างอาบน้ำอยู่ภายในห้องด้วย นอกจากนี้พื้นที่ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องแต่งตัวที่เป็นฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมมา
.
รูปแบบห้อง 3 ห้องนอน เมื่อเข้าประตูมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร โดยห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) และห้องนอนลำดับที่ 2-3 จะแยกฝั่งซ้ายขวากัน
.
รูปแบบและขนาดห้อง 3 ห้องนอนโครงการนี้ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ รวมไปถึงผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ราคาค่าตัวอยู่ที่เริ่มต้นประมาณ 15.9 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาทำเลและขนาดห้องที่ขนาดพื้นที่ที่ได้รับ เหมาะแก่การพักอาศัยแบบอยู่ยาวนั้น ก็นับได้ว่าราคาก็มีความเหมาะสมทีเดียว


จุดเด่นของโครงการ

1. การออกแบบ


การออกแบบภายในตัวห้องมีฟังก์ชั่นรวมไปถึงพื้นที่การใช้งาน กว้างขวางเหมาะแก่การอยู่จริง อีกทั้งแนวทางการออกแบบของโครงการจะพัฒนาเป็นห้องรูปแบบที่ไม่มีระเบียงเสียส่วนใหญ่ ซึ่งมีข้อดี คือ ได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยจาก บริเวณปรับอากาศ (Air conditioning area) มากขึ้น ทำให้สามารถได้ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ทุกตารางนิ้ว
.
พอมาถึงส่วนนี้หลายคนอาจเกิดคำถามสงสัยว่า “แล้วฉันจะตากผ้าอย่างไร” ซึ่งทางโครงการจึงมีการออกแบบช่องประตูเปิดเป็นพื้นที่วางตู้แอร์หรือคอยล์ร้อน ที่เปิดประตูได้จากห้องนั่งเล่น ทั้งนี้สามารถดัดแปลงพื้นที่ว่างที่เหลือส่วนด้านบนตู้แอร์ตากผ้าได้ แต่อย่างไรก็ตามรูปแบบการใช้งานอาจจะไม่เหมาะสมเช่นเดียวกับการตากที่ระเบียง แต่ก็แลกมากับการได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

ตัวอย่างช่องประตูเปิดเป็นพื้นที่วางตู้แอร์ ของห้อง 1 ห้องนอน

นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ มีการออกแบบมาให้เน้นพื้นที่สีเขียว มีความร่มรื่น สบายตา

ภาพสามมิติ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ

2. เทคโนโลยีที่นำมาใช้


ด้วยนวัตกรรมการใช้โซล่าเซลล์ เพื่อดึงพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นพลังงานสะอาด ร่วมกับระบบหมุนเวียนอากาศในห้องพัก ซึ่งทางโครงการเรียกระบบนี้ว่า Smart Solar Fresh Air เป็นต้นทุนของทางโครงการที่ทำเพิ่มให้ลูกค้า
.
โดยลูกค้าจะได้ประโยชน์จากระบบนี้ คือ เมื่อมีการควบคุมการไหลเวียนอากาศ ทำให้ ลดอุณหภูมิภายในห้อง (ไม่ร้อน) ช่วยทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักในการเปิดช่วงแรก นอกจากนั้นยังช่วยใน การระบายอากาศ (ควบคุมความชื้น) ทำให้เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงพื้นภายในห้อง เสื่อมอายุการใช้งานช้าลง ไม้ไม่บวม และยังช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียภายในห้องได้
.
ซึ่งทางโครงการได้เลือกระบบหมุนเวียนอากาศยี่ห้อ Nortis Energy ที่สามารถสั่งงานเปิด-ปิดระบบผ่านแอพพลิเคชั่น Life Smart Application ได้

3. ทำเลที่ตั้ง

จุดเด่นที่สำคัญที่สุด คือเรื่อง ด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งที่ตั้งโครงการอยู่ทำเลในเมือง และใกล้แนวรถไฟฟ้าสาย BTS เส้นสุขุมวิท ที่เป็นแนวรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทย (เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2542) การพัฒนาโครงข่ายในปัจจุบัน มีการพัฒนาส่วนต่อขยายออกจากใจกลางเมืองสู่พื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทำเลแนวรถไฟฟ้าดั้งเดิมหรือรถไฟฟ้า BTS เส้นสุขุมวิทนี้ จะเริ่มมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการซื้อทำเลในอนาคตได้อย่างดี
.
จากทำเลที่เหมาะแก่การลงทุน รวมไปถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่สามารถจับกลุ่มสร้างครอบครัวได้ ซึ่งหากพิจารณาราคาเริ่มต้นของทางโครงการอยู่ที่ประมาณ 4.99 ล้านบาท (ห้องแบบ 1 ห้องนอน) หรือราคาเริ่มต้นตร.ม.ละ 14x,xxx บาท (ราคาวันที่ 3/3/2562) รูปแบบห้องแบบ Fully Furnished (แถมครัว เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน และเครื่องปรับอากาศ)
.
ซึ่งขณะนี้ทางโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และกำหนดการแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ที่ประมาณ เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2562 (ปีนี้)
.
ท่านใดอ่านรีวิวและสนใจชมห้องตัวอย่างของโครงการ สามารถเข้าไปติดต่อได้ที่สำนักงานขาย (ชั่วคราว) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 3 ได้ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ทุกวัน

เรื่องการเดินทาง เมื่อมาถึงเกตเวย์ เอกมัยแล้ว

  • (1) ให้ขึ้นบันไดเลื่อนโถงบริเวณตรงกลางศูนย์การค้ามาชั้นที่ 3
  • (2) เมื่อถึงชั้นที่ 3 เบี่ยงซ้ายเล็กน้อย ด้านขวาจะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์
  • (3) เดินมาเรื่อยๆ ถัดมาจะเป็นสำนักงานขายของโครงการตั้งอยู่ฝั่งขวามือ


หากใครชื่นชอบ หรือจะส่งต่อบทความรีวิวโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 ก็สามารถกดปุ่มแชร์ข้างล่างได้เลยครับ