ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากร นํ้าแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของแม่นํ้าโขงทำให้ชาติสมาชิกต้องพูดคุยกันมากขึ้น เพื่อจะได้วางแผนบริหารจัดการนํ้า เพื่อรับมือนํ้าหลากและนํ้าแล้งให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ข้อมูลนํ้าจึงมีความสำคัญมาก ทั้งจากนํ้าฝน นํ้าท่าที่ไหลลงแม่นํ้าโขง และผ่านมายังชายขอบประเทศไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ดร.สมเกียรติกล่าวอีกว่า ในการประชุมทั้งเวทีกรอบความร่วมมือแม่นํ้าโขง-ล้านช้าง มีความคืบหน้าที่น่าสนใจคือ จีนยินดีสนับสนุนข้อมูลระดับนํ้าและปริมาณฝนในช่วงฤดูนํ้าหลาก ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม-31 ตุลาคม ของทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2562 นี้เป็นต้นไป โดยอาศัยข้อมูลจากสถานีอุทกวิทยา 2 แห่งคือ สถานีจิ่งหง ซึ่งเป็นสถานีวัดปริมาณนํ้าที่ระบายจากเขื่อนตัวที่ 6 ของจีนในแม่นํ้าโขง และสถานีหม่านอัน สถานีวัดนํ้าในลำนํ้าสาขาแม่นํ้าโขงของจีน“สทนช.เพิ่งลงนามในบันทึกความเข้าใจกับจีนว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลอุทกวิทยา กรณีฤดูนํ้าหลาก เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน” ดร.สมเกียรติกล่าว
.
นอกจากนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา
ดร.สมเกียรติ ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการแม่นํ้าโขงแห่งชาติไทย เดินทางไปหลวงพระบาง
เพื่อหารือกับนายแก้วมณี หลวงฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองบริหารองค์กรและความร่วมมือ
ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการแม่นํ้าโขงแห่งชาติลาว
ในประเด็นการร่วมมือบริหารจัดการนํ้าใน แม่นํ้าโขง ผลการหารือทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องร่วมกัน
ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการบริหารจัดการนํ้าแม่นํ้าโขง สถานีวัดนํ้าฝน
รวมถึงปริมาณนํ้าที่ระบายออกจากเขื่อนของสปป.ลาว ที่ไหลลงสู่แม่นํ้าโขง
ทั้งโครงการที่ก่อสร้างแล้วในปัจจุบัน
และที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้แก่ประเทศไทยโดยตรง
นอกเหนือจากการประสานงานผ่านคณะกรรมการแม่นํ้าโขง (MRC)
“เพื่อให้การใช้นํ้าจากแม่นํ้าระหว่างประเทศเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
โดยผู้แทนสปป.ลาวจะนำไปหารือในระดับนโยบาย เพื่อให้เกิดความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านอุทกวิทยา
ระหว่าง 2 ชาติในระยะสั้นและระยะกลางให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป” ดร.สมเกียรติกล่าว
สปป.ลาวยังติดตั้งสถานีวัดนํ้าเชียงกก ในลำนํ้าโขงระหว่างเมียนมาและสปป.ลาว เหนืออ.เชียงแสน จ.เชียงราย ประมาณ 200 กิโลเมตร
.
“ผลการหารือครั้งนี้ ทำให้เกิดความเชื่อมโยงการบริหารจัดการแม่นํ้าโขงตลอดสายในฤดูฝนนี้
ทั้งข้อมูลปริมาณนํ้าฝน นํ้าที่ระบายจากเขื่อนไซยะบุรี
ที่สะท้อนความเป็นจริงและเป็นข้อมูลปัจจุบัน (Real Time) ใช้วิเคราะห์คาดการณ์สถานการณ์นํ้าโขงฝั่งไทยได้
โดยเฉพาะ 8 จังหวัดเสี่ยงที่ติดแม่นํ้าโขง”
ในแต่ละปี ปริมาณนํ้าโขงจะอยู่ในระดับสูง 2 ช่วงคือเดือนกรกฎาคมกับกันยายน หากได้รับข้อมูลสถานการณ์นํ้าจากสปป.ลาวล่วงหน้า “เราก็สามารถคาดการณ์ และป้องกันบรรเทาผลกระทบจากนํ้าโขงล้นตลิ่งฝั่งไทยได้” ดร.สมเกียรติกล่าวอย่างมั่นใจ
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย