เชื่อว่าในสังคมปัจจุบันโดยเฉพาะช่วงวัยทำงานเป็นวัยที่ต้องแข่งขันเร่งรีบ ยิ่งโลกหมุนเร็วมากเท่าไหร่ การทำงานของมนุษย์วัยทำงานก็ยิ่งต้องตามให้ทันมากเท่านั้น ส่งผลให้ด้านสุขภาพของช่วงวัยทำงานนี้ต้องเผชิญกับโรคมากมาย Tooktee เลยไปหาความรู้เรื่องโรคยอดฮิตของวัยทำงานและวิธีหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้มาให้ทุกคนได้อ่านกัน
-
โรคเครียด นอนไม่หลับ
เป็นโรคยอดฮิตอันดับต้นๆเลยก็ว่าได้ของวัยทำงาน โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์บ้างานที่ อดหลับอดนอนเพื่อให้งานเสร็จทำให้ร่างกายต้องแบกรับความตึงเครียดปราศจากการผ่อนคลาย อาการนี้ไม่ว่าคนที่เริ่มทำงานใหม่ ๆ หรือคนที่ทำงานมาแล้วเป็นสิบ ๆ ปี ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้กันมาก ซึ่งบางคนอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ ว่าภาวะความเครียดกำลังก้าวเข้าสู่ตัวเรา วิธีการหลีกเลี่ยงโรคนี้คือการหาวิธีผ่อนคลาย เช่น หาเวลาไปเที่ยวพักผ่อน ผ่อนคลายสมองช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก่อนที่จะกลับมาทำงานในเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใส หรือหาเวลาว่างสัก 1-2 ชั่วโมงออกไปเดินเล่น แล้วค่อยกลับมาทำงาน ก็ถือว่าได้ผ่อนคลายบ้างแล้ว
-
โรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน
สาเหตุหลัก ๆ เลยคือ อดอาหารหรือการทานอาหารไม่ตรงเวลา แต่บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าความเครียดก็สามารถเป็นต้นเหตุของโรคกระเพาะอาหารได้เช่นกัน เพราะปัจจัยทางจิตใจมีผลทำให้เกิดความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างการอ่อนแอต่อการได้รับเชื้อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter pylori) ซึ่งเป็นเชื้อโรคชนิดหนึ่งของการเกิดโรคกระเพาะ และหากมี “ภาวะความเครียดสะสม” ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการ เครียดลงกระเพราะ เพราะเมื่อเราเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งอะดรีนาลีน (Adrenaline) มากกว่าปกติทำให้ร่างกายตื่นตัวตลอดเวลา ซึ่งส่งผลกระตุ้นให้เกระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ จนทำให้เกิดอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร แนวทางหลีกเลี่ยงคือ การไม่เครียดและไม่อดอาหารและทานอาหารให้ตรงเวลา
-
โรคกรดไหลย้อน
หนึ่งโรคที่ไม่ควรมองข้าม คือ อาการของโรคกรดไหลย้อน สังคมปัจจุบัน คนใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบมากขึ้น ต้องทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ในเวลาที่รีบเร่ง หนึ่งในนั้นคือการรับประทานอาหาร ซึ่งโรคกรดไหลย้อน คือ ภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพราะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรดในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ โรคกรดไหลย้อนอาหารไม่ได้มีแค่ “วัยทำงาน” เท่านั้นที่มีความเสี่ยงแต่ทุกกลุ่มช่วงอายุก็เสี่ยงต่อการเกิดอาการนี้เช่นกัน ซึ่งกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่ชอบดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือผู้ที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก โรคเบาหวาน เป็นต้น โดยวิธีการหลีกเลี่ยงคือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ เช่น ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มสุรา น้ำอัดลม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ลดอาหารที่มีรส เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม อาหารที่มีไขมันสูง ไม่รับประทานอาหารในปริมาณที่มากเกินไป ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นต้น
-
โรคไมเกรน ปวดศีรษะเรื้อรัง
ถือเป็นโรคยอดฮิตอีกโรคหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะโรคนี้ก็มีสาเหตุมาจากภาวะความเครียดเช่นกัน อาการของโรคนี้ คือ อาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือเริ่มปวดข้างเดียวก่อนแล้วจึงปวดสองข้าง โดยอาการจะปวดตุ๊บ ๆ เป็นระยะ ๆ ส่วนมากจะปวดรุนแรงปานกลางถึงรุนแรงมาก อาการปวดศีรษะไมเกรนต่างจากอาการปวดศีรษะธรรมดาตรงที่ว่า อาการปวดศีรษะธรรมดามักจะปวดทั่วทั้งศีรษะ ส่วนใหญ่เป็นอาการปวดตื้อ ๆ ที่ไม่รุนแรงนัก และมักจะไม่มีอาการอื่น เช่น คลื่นไส้ร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะหายได้เองเมื่อได้นอนหลับสนิทไปพักใหญ่ การบรรเทาอาการไมเกรน โดยไม่ใช้ยา ได้แก่ การนวดผ่อนคลาย การกดจุด หรือการนอนหลับ หรือ หากมีอาการปวดที่รุ่นแรงก็จำเป็นที่จะต้องใช้ยาในการบรรเทาอาการปวด เป็นต้น
-
โรคปวดหลังเรื้อรัง
เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในคนวัยทำงาน ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการนั่งทำงานไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานตลอดเวลา ไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ส่งผลทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบ และมีอาการปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ บางรายอาจมีอาการปวดเกร็งอย่างรุนแรง อาทิ ปวดคอ, บ่า, ไหล่, หลัง, แขน เป็นต้น วิธีป้องกันและหลีกเลี่ยงด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ สำหรับคนทำงานที่นั่งนานๆ ควรพักและเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายบ้าง
-
โรคมือชา เอ็นอักเสบ นิ้วล็อก
เกิดจากการใช้มือในการกดคีย์บอร์ด การคลิกเม้าส์ เมื่อการใช้ข้อมื้อหรือนิ้วขึ้นลงซ้ำๆ เป็นเวลานาน ก็ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณเส้นเอ็น ทำให้เกิดอาการชาบริเวณนิ้วมือและข้อมือ บางคนเป็นหนักคือมีอาการนิ้วล็อก ขยับนิ้วมื้อลำบาก ต้องผ่าตัดรักษา หากทำงานในอิริยาบถที่ผิดหรือไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม อาการจะรุนแรงจนถึงขั้นหมอนรองกระดูกเสื่อมหรือหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทได้ หากมีอาการให้นวดมือเบาๆจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว แช่น้ำอุ่น 5 นาที ความร้อนช่วยให้ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ ทำให้เลือดไหลเวียนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
สุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ถึงมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงวัยทำงานที่ต้องใช้ระบบร่างกายแบบหนักหน่วงทั้งระบบภายนอกจนกระทั่งระบบภายใน ใครที่ทำงานแบบทุ่มเทแบบสุดโต่งจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรม อ่อนแอทำให้เจ็บป่วยง่าย พฤติกรรมเร่งรีบ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มักเน้นความสะดวกไว้ก่อน เช่น อาหารแช่แข็ง อาหารสะดวกซื้อ เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราเลย “ทำงานหนักได้ แต่ควรดูแลตัวเองด้วยนะคะ”
เว็บไซต์อ้างอิง :
Background photo created by luis_molinero - www.freepik.com
(http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=726)
(http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=105)
(https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/do-not-overlook-back-pain)
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย